Excel ฟังก์ชันการทำงานกับข้อความ (Text Functions)

หลายครั้งที่เราต้องทำงานกับข้อความ ด้วย Microsoft Excel การไม่ทราบสูตรคำนวณ ก็อาจจะทำให้การทำงานนั้นใช้เวลามาก และ ไม่ได้ประสิทธิภาพ ซึ่ง Microsoft Excel มีฟังก์ชันในการทำงานกับข้อความอยู่หลายฟังก์ชันเลยทีเดียว ที่จะช่วยให้การทำงานกับข้อความ ทำได้ง่ายขึ้น และ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น หากจะปรับข้อความเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ การตัดเอาตัวอักษรบางตัวจากรหัสพนักงาน การค้นหาข้อความ การรวมและการแทนที่ข้อความ เป็นต้น
Excel ฟังก์ชันการทำงานกับข้อความ (Text Functions)
ทักษะ (ระบุได้หลายทักษะ)

Excel ฟังก์ชันการทำงานกับข้อความ (Text Functions)

หลายครั้งที่เราต้องทำงานกับข้อความ ด้วย Microsoft Excel การไม่ทราบสูตรคำนวณ ก็อาจจะทำให้การทำงานนั้นใช้เวลามาก และ ไม่ได้ประสิทธิภาพ ซึ่ง Microsoft Excel มีฟังก์ชันในการทำงานกับข้อความอยู่หลายฟังก์ชันเลยทีเดียว ที่จะช่วยให้การทำงานกับข้อความ ทำได้ง่ายขึ้น และ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น หากจะปรับข้อความเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ การตัดเอาตัวอักษรบางตัวจากรหัสพนักงาน การค้นหาข้อความ การรวมและการแทนที่ข้อความ เป็นต้น
 

ฟังก์ชัน LEN

ฟังก์ชัน LEN ใช้สำหรับนับจำนวนตัวอักษรทั้งหมด รวมไปถึงเครื่องหมายเว้นวรรค หากเป็นภาษาไทยจะรวมถึง สระและวรรณยุกต์ด้วย

รูปแบบการใช้งาน

=LEN(text)
text  คือ ข้อความที่ต้องการนับจำนวน ต้องระบุเท่านั้นฟังก์ชันนี้ และเป็นเฉพาะตัวอักษร
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน LEN ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-len.xlsx
 

ฟังก์ชัน UPPER

ฟังก์ชัน UPPER ใช้สำหรับกำหนดตัวอัษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
 

รูปแบบการใช้งาน

=UPPER(text)
text  คือ ข้อความที่ต้องการให้เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน UPPER ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-upper.xlsx
 

ฟังก์ชัน LOWER

ฟังก์ชัน LOWER ใช้สำหรับกำหนดตัวอัษรพิมพ์เล็กทั้งหมด

รูปแบบการใช้งาน

=LOWER(text)
text คือ ข้อความที่ต้องการให้เป็นตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน LOWER ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-lower.xlsx
 


 

ฟังก์ชัน LEFT

ฟังก์ชัน LEFT เป็นฟังก์ชันที่แบ่งข้อความเริ่มต้นจากทางด้านซ้ายและระบุจำนวนที่ต้องการแบ่ง
 

รูปแบบการใช้งาน

=LEFT(text,[num_chars])
text คือ ตัวอักษรที่ต้องการแบ่งเริ่มต้นจากทางด้านซ้าย
[num_chars] คือ จำนวนตัวอักษรที่ต้องการแบ่งหากไม่ระบุค่าเริ่มต้นคือ 1


 

 


 

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน LEFT ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-left.xlsx
 

ฟังก์ชัน RIGHT

ฟังก์ชัน RIGHT เป็นฟังก์ชันที่แบ่งข้อความโดยเริ่มนับจากทางขวา โดยแบ่งตามที่เราระบุ

รูปแบบการใช้งาน

=RIGHT(text,[num_chars])
text คือ ตัวอักษรที่ต้องการแบ่งเริ่มต้นจากทางด้านซ้าย
[num_chars] คือ จำนวนตัวอักษรที่ต้องการแบ่งหากไม่ระบุค่าเริ่มต้นคือ 1
 


 

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน RIGHT ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-right.xlsx
 

ฟังก์ชัน MID

ฟังก์ชัน MID ใช้สำหรับแบ่งข้อความจากจุดเริ่มต้นที่กำหนดและจุดสิ้นสุดที่กำหนด หรือ แบ่งข้อความในส่วนที่เราต้องการ
 

รูปแบบการใช้งาน

=MID(text,start_num,num_chars)
 
text  คือ Cell ที่ต้องการอ้างอิง ที่เป็นข้อความ
start_num คือ ตำแหน่งที่ต้องการเริ่มต้นโดยนับจากตัวอักษรแรกเป็นตำแหน่งที่ 1 ห้ามใส่เลขติดลบ ค่าเริ่มต้น 1 เป็นต้นไป
num_chars  คือ จำนวนตัวอักษรที่ต้องการตัด โดยเริ่มนับจากอักษรตัวแรกที่ระบุจากตำแหน่งเริ่มต้น ห้ามใส่เลขติดลบ ค่าเริ่มต้น 1 เป็นต้นไป
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน MID ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-mid.xlsx

ฟังก์ชัน PROPER

ฟังก์ชัน PROPER กำหนดให้ตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่
 

รูปแบบการใช้งาน

=PROPER(text)
text คือ ข้อความที่ต้องการปรับตัวแรกเป็นพิมพ์ใหญ่
 


 

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน PROPER ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-proper.xlsx
 

ฟังก์ชัน SEARCH

ฟังก์ชัน SEARCH ใช้ค้นหาตำแหน่งของคำที่เราต้องการ เพื่อนำไปใช้ต่อกรณีอยากได้ตำแหน่งของเครื่องหมาย , จากตัวอย่างทำให้เราสามารถตัดรหัสของพนักงานออกมาได้ โดยที่ข้อมูลมาเพิ่มเราก็สามารถตัดรหัสออกมาได้อย่างแม่นยำ
 

รูปแบบการใช้งาน

=SEARCH(find_text,within_text,[start_num])
find_text คือ ต้องระบุ Cell ที่เป็นข้อความหรือป้อนอักษรไปยังฟังก์ชัน
within_text คือ Cell ที่เราต้องการค้นหา หรือ ระบุตรงๆ โดยให้อยู่ในรูปแบบ Text
start_num คือ ใส่ไม่ใส่ก็ได้ [] หากไม่ใส่ค่าเริ่มต้นจะเป็น 1
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน SEARCH ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

https://www.9experttraining.com/files/excel-text-functions/excel-functions-search.xlsx
 

ฟังก์ชัน BAHTTEXT

ฟังก์ชัน BAHTTEXT ใช้กรณีต้องการสรุปยอดใบเสร็จหรือต้องการแสดงเป็นตัวอักษรภาษาไทย

รูปแบบการใช้งาน

=BAHTTEXT(number)
number คือ (ต้องระบุ) ตัวเลขที่ต้องการให้พิมพ์ข้อความภาษาไทย


 

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน BAHTTEXT ของ Excel

ข้อควรระวัง

มีเฉพาะประเทศไทย บางประเทศอาจจะใช้ฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้
 

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

ฟังก์ชัน VALUE

ฟังก์ชัน VALUE ใช้สำหรับแปลงค่าตัวอักษรไปเป็นตัวเลขหรือใช้กรณีต่าง ๆ กันออกไป

รูปแบบการใช้งาน

=VALUE(text)
number คือ (ต้องระบุ) ตัวเลขที่ต้องการให้พิมพ์ข้อความภาษาไทย
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน VALUE ของ Excel

ข้อควรระวัง

หากรูปแบบ TEXT บางรูปแบบไม่สามารถแปลงได้จะขึ้น ERROR #VALUE! เช่น รูปแบบวันที่ ที่ไม่ Support กับเครื่อง
 

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

ฟังก์ชัน TEXTJOIN

ฟังก์ชัน TEXTJOIN จะคล้ายกับ CONCAT แต่ข้อดีของฟังก์ชันนี้คือ เราสามารถ ระบุสิ่งที่เราต้องการต่อซ้ำ ๆ ได้

รูปแบบการใช้งาน

=TEXTJOIN(delimiter,ignore_empty,text1,...)
delimiter คือ ข้อความที่ต้องการให้เชื่อมต่อกับข้อความ
ignore_empty คือ จะให้นับช่องว่างด้วยหรือไม่ ตัวแปรนี้สามารถระบุได้ 2 ค่า TRUE ไม่นับช่องว่าง หรือ FALSE ค่าที่ไม่มีก็จะขึ้นเหมือนเชื่อมข้อความอยู่
text1 คือ ข้อความที่ต้องการจะต่อกับ delimiter หรือตัวคั่นนั้นเอง
คือ หมายถึง ข้อความที่ต้องการจะเชื่อมต่อถัดไปหากมี

ข้อควรระวัง

หากข้อความที่ต่อกันเกิน 32767 ตัวอักษร จะขึ้น ERROR #VALUE!

Version ที่รองรับ

Excel for Microsoft 365, Excel for Microsoft 365 for Mac, Excel สำหรับเว็บ Excel 2019, Excel 2019 for Mac
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน TEXTJOIN ของ Excel

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่าง

ฟังก์ชัน REPLACE

ฟังก์ชัน REPLACE ใช้แทนคำหรือช่วงที่เราต้องการ จากตัวอย่าง เช่น การลบข้อมูล ERROR จากระบบข้อดีของการทำแบบนี้คือ ไม่ต้องมา REPLACE ทุก ๆ ครั้งที่กรอกข้อมูล ใช้ฟังก์ชันในการตรวจสอบแทนการใช้เครื่องมือ

รูปแบบการใช้งาน

=REPLACE(old_text,start_num,num_chars,new_text)
old_text คือ ข้อความที่ต้องการจะเปลี่ยน
start_num คือ ตำแหน่งเริ่มต้นที่จะแทนที่ข้อความ
num_chars คือ จำนวนคำที่ต้องการเปลี่ยน
new_text คือ แทนคำว่าอะไร
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน REPLACE ของ Excel

ข้อควรระวัง

ฟังก์ชันนี้อาจจะไม่รองรับบางภาษาต้องระบุตัวแปรให้ครบทุกตัวแปร

แนะนำหลักสูตร Microsoft Excel ของ 9Expert Training

********************************************************************
อบรมแบบ Online ด้าน Microsoft Excel